29/1/52

Fw: "หมอนรองกระดูก"ภัยเงียบ!!คุกคามคนออฟฟิศ

น่าจะมีประโยชน์สำหรับคนสมัยใหม่ที่มีคอมพิวเตอร์มาเป็นตัวช่วยในการทำงานหลักๆครับ

หมอนรองกระดูก กำลังกลายเป็นภัยเงียบคุกคามคนออฟฟิศ สาเหตุหนึ่งเพราะนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ ยกของหนัก เล่นกีฬาผิดท่าหรือรุนแรง แพทย์เตือนอาการปวดหลัง ปวดคอ ชาตามแขน หรือขา เป็นสัญญาณร้ายต้องรีบรักษาด่วน !!!
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจาก นพ.ธีรศักดิ์ พื้นงาม ศัลยแพทย์ระบบประสาทไขสันหลัง เครือโรงพยาบาลพญาไทว่า
โรคภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทไขสันหลัง ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน หรืออาจถึงขั้นพิการได้ เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน และการดำรงชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ หรือการก้มตัวเพื่อยกของหนัก หรือเล่นกีฬาที่ผิดท่าหรือรุนแรง ก่อให้เกิดอาการปวดคอ หรือปวดหลังเรื้อรัง ปวดร้าวชาลงแขน หรือขา กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณร้ายของภาวะหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท นพ.ธีรศักดิ์ แนะนำว่า เมื่อพบผู้ป่วยมีอาการดังกล่าว แพทย์จะทำการตรวจอย่างละเอียดด้วยเครื่อง "MRI Spine" หรือเครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ตรวจหาความผิดปกติของหมอนรองกระดูก เพื่อวางแผนรักษาโดยไม่เปิดแผลผ่าตัด(Non Opening Surger) ซึ่งมี 2 ทางเลือก กล่าวคือ หากผู้ป่วยมีอาการปวดหลังเรื้อรัง และมีอาการปวดร้าวลงขา อันเนื่องมาจากมีส่วนของหมอนรองกระดูกยื่นไปกดทับเส้นประสาทไขสันหลัง

แพทย์จะทำการรักษาโดยใช้กล้องขนาดเล็ก หรือกล้องเอ็นโดสโคป ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุด เจาะและสอดกล้องที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 4 มิลลิเมตร ซึ่งมีเลนส์ติดอยู่ที่ส่วนปลายของกล้องผ่านใยกล้ามเนื้อ ไปยังหมอนรองกระดูกส่วนที่กดทับเส้นประสาท และใส่เครื่องมือผ่าตัดผ่านกล้องเข้าไปตัดหมอนรองกระดูกโดยตรง ไม่ต้องเลาะกล้ามเนื้อหรือตัดกระดูกสันหลัง แผลจึงมีขนาดเล็กเพียง 8 มิลลิเมตร ผู้ป่วยจึงฟื้นตัวเร็วภายใน 1-2 วัน ไม่เหมือนอดีตต้องขาดงาน 1-2 เดือนไม่เพียงเท่านั้น หากแพทย์วินิจฉัยพบว่ามีภาวะของหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทไม่มาก แนะนำให้รักษาวิธีนิวคลีโอพลาสตี้ เป็นการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดแผลเช่นกัน ทำได้โดยใช้เข็มขนาดเล็ก 2.5 มิลลิเมตร สอดเข้าไปในหมอนรองกระดูกที่มีปัญหา แล้วปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุผ่านเข็ม ซึ่งจะเกิดความร้อนที่ปลายเข็ม ทำให้เกิดการสลายหมอนรองกระดูกส่วนหนึ่งออกไป จะทำให้ลดภาวะการกดทับเส้นประสาท วิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยที่ทำเอ็มอาร์ไอแล้วพบว่ามีหมอนรองกระดูกเสื่อมอยู่ในบริเวณระดับของหมอนรองกระดูก ข้อดีไม่ต้องผ่าตัดเปิดแผลและไม่มีแผล ปลอดภัยสูง ค่าใช้จ่ายไม่มากผ่าตัดเสร็จกลับบ้านได้เทคนิคผ่าตัดอาการโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทด้วยกล้องเอ็นโดสโคปรายแรกในประเทศไทยเริ่มเมื่อปี 2550 ปัจจุบันแพทย์รักษาด้วยวิธีนี้ไปแล้วกว่า 100 ราย และตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 เป็นต้นมา ศูนย์ระบบประสาทไขสันหลัง (Mini Spine Center) ได้ทำการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทแบบใช้กล้องเอ็นโดสโคปแบบไม่ต้องวางยาสลบ ให้เพียงยาชาเฉพาะที่นั้น มีข้อดีหลายอย่าง อาทิ ลดความเสี่ยงกรณีผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หรือร่างกายไม่แข็งแรง คนไข้จะไม่มีอาการแทรกซ้อน ฟื้นตัวได้เร็ว อีกทั้งระหว่างผ่าตัดผู้ป่วยยังรู้สึกตัว โต้ตอบ หรือทดสอบการขยับแขนขาได้ ทำให้มีความปลอดภัยสูงกว่าการผ่าตัดที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว



เมื่อทำการรักษาแล้ว มีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก หลักการสำคัญของการป้องกัน
ควรจัดท่านั่งทำงานหรือกิจวัตรประจำวันให้ถูกต้อง พยายามให้แนวกระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรงเสมอ หลีกเลี่ยงการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อหลังมาก ๆ หมั่นบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงไว้เสมอ เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่คอยตรึงแนวกระดูกสันหลังไม่ให้เคลื่อนไหวมากเกินไป นพ.ธีรศักดิ์ ยังย้ำถึงวิธีการป้องกันว่า คนวัยทำงานควรนั่งหลังตรงชิดเก้าอี้ ขาวางติดพื้น แป้นพิมพ์และเม้าส์คอมพิวเตอร์ควรอยู่ในระนาบเดียวกัน ทำมุม 45 องศากับจอคอมพิวเตอร์ สลับกับการปรับเปลี่ยนท่านั่ง หรือมีการเคลื่อนไหวทุก ๆ 1 ชั่วโมง หมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลัง กล้ามเนื้อคอ เฉพาะวัย 40 ปีขึ้นไปเสี่ยงเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
ด้วยควมปราถนาติจากคุณ ติ๊กส่งมาให้ครับ
ด้วยความขอบคุณ

1 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดียามเช้า
    ไม่ได้มาแวะเยี่ยมเยียนกันเลย
    เข้ามาอีกทีบล็อกของคุณพัฒนาไปมากเลย
    แนะนำข้าพเจ้าบ้าง

    เรื่องของหมอนรองกระดูกต้องระมัดระวัง
    เพราะเคยมีอาการปวดขาเนื่องจากหิ้วของหนัก
    หรือก้มผิดท่าก้ไม่ทราบ
    ปวดขาแบบทรมานมาก ๆ เลย
    ต้องไปหาหมอเลยทุเลาลงได้

    ตอบลบ

ขอบคุณที่ติดตามครับ